Project Citizen

Project Citizen
โครงการเพิ่มพูนความรู้ ส่งเสริมทักษะของนักเรียน และปลูกฝังความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง สามารถทำงานร่วมกันได้ ให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างชาญฉลาด ส่งเสริมเสรีภาพและภราดรภาพ ส่งเสริมสวัสดิการพื้นฐาน นำไปสู่การมีความรับผิดชอบที่มีการพัฒนาองค์ความรู้ และทักษะต่างๆ เพื่อจะทำให้ชุมชนดีขึ้น...ครูชาญวิทย์

วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

จิตสำนึกพลเมือง


จิตสำนึกพลเมือง
16 มีนาคม 2014 เวลา 20:04 น.
--------------------------------------------------------------

         เราทุกคนเป็นพลเมือง อาศัยอยู่ในสังคมเดียวกัน อาจจะมีชื่อย่อยต่างๆนานา แต่ก็รวมกันเป็นประเทศเดียวกัน อาศัยในภูมิประเทศสุวรรณภูมิ พูดภาษาไทย เล่าเรียนรู้ประวัติศาสตร์รากเหง้าความเป็นไทยและความเป็นไท ร้องเพลงชาติเดียวกัน เพลงสรรเสริญพระบารมีเดียวกัน สืบทอดคุณงามความดี และศักดิ์ศรีของชาติเดียวกัน

         ไม่ว่าเราจะทำอะไร และไม่ว่าเราจะไม่ทำอะไร ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนส่งผลไปถึงการกำหนดว่า "เราเป็นใคร" เสมอ ไม่มีข้อยกเว้น เราทุกคนมีส่วนในการที่สังคมเป็นอย่างที่ได้เป็น กำลังเป็น และที่สำคัญมากก็คือ "กำลังจะเป็น" ในอนาคตด้วย

         ทั้งความดี ความไม่ดี จุดอ่อน จุดแข็ง ของชุมชนและสังคม เป็นผลเกิดขึ้นมาจากความรับผิดชอบร่วมกันทั้งสิ้น

         จากการศึกษารวบรวมข้อคิดเห็น ปรากฏการณ์อย่างหนึ่งคือการยอมรับคอรับชั่นถ้าในเงื่อนไขที่ตนเองได้รับผลประโยชน์ด้วย ทำแล้ว ทำอีก ก็ยังได้ผลเหมือนเดิม ถ้าเรายอมรับปรากฏการณ์นี้ว่าเป็นความจริง "เราทุกคน" จะต้องมีส่วนรับผิดชอบในการทำให้เกิดขึ้น และคำถามที่เราจะต้องรีบถามตนเองก็คือ "แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป?"

         @ บ้างก็อาจจะปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง ฉันไม่เคยโกง ไม่เคยคอรัปชั่น จะหาว่าเกี่ยวได้อย่างไร ก็ต้องตอบคำถามว่า แล้วเคยเห็นคนโกง คนคอรับชั่นหรือไม่ ในการใช้ชีวิตที่ผ่านมา และถ้าเคยเห็น ได้ลงมือกระทำอะไรไปบ้าง? หรือว่าเฉยๆ ธุระไม่ใช่ หากเป็นเช่นนั้น "การเฉยๆ ธุระไม่ใช่"นั้น ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การโกง การคอรัปชั่นเติบโต งอกงาม และกัดกินสังคม

         @ บ้างก็บอกว่าเคยเห็น แต่การต่อต้าน กำจัดเรื่องเหล่านี้ เป็น "หน้าที่ของคนอื่น" ไม่ใช่หน้าที่ของตนเอง ซึ่งเรื่องนี้น่าสนใจ นำมาสู่คำถามที่สำคัญคือ "การตรวจตราดูแลการโกง การคอรัปชั่นในสังคม (หมายถึงรวมทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน ในชุมชน ฯลฯ) นั้น เป็นหน้าที่ของบางคน หรือเป็นหน้าที่ของทุกคนกันแน่?

         @ บ้างอาจจะบอกว่าการโกง การคอรัปชั่น ก็เป็นเพียงปรากฏการณ์ธรรมชาติ ใครๆก็ทำกัน เพราะมีเส้น มีสาย มี connection กัน มีเพื่อน มีคนรู้จัก ฯลฯ ที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ใครทำประโยชน์ให้เรา เราก็ทำประโยชน์ให้ตอบแทน เป็นเรื่อง "ปกติ" ความคิดแบบนี้บิดเบี้ยวถึงขนาด "ผิดปกติจนเป็นปกติ" ไป แยกแยะไม่ออกระหว่างบุญคุณส่วนตัว กับประโยชน์ของสาธารณะ ของชุมชน ของประเทศ เป็นพยาธิสภาพในกลุ่มคนที่ระบบความคิดไม่มีพื้นที่เติบโตของ "คุณค่า"ที่เป็นธรรม เป็น "ความดี" เหลืออยู่ มีแค่คุณค่าแบบรูปธรรม และข้อสำคัญคือ แบบ "ตัวเองเป็นหลัก" ไม่มีจิตสาธารณะ ไม่มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม
 
         ถ้าหากประการหลังเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสัดส่วนประชากรส่วนใหญ่ สังคมนั้นๆ กำลังจะเน่า กำลังสึกกร่อน และหมดพลังที่จะดำเนินต่อไปในอนาคต

         เพราะคุณค่าที่แท้จริงของมนุษย์นั้น ไม่ได้ขึ้นกับการรู้จักกัน ไม่ได้อยู่ที่การเห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกพ้อง แต่จะเกิดขึ้นต่อเมื่อ "ศักยภาพที่แท้" ของมนุษย์ อันเป็นองค์รวม อันเป็น collective สามารถเชื่อมโยงและนำมาใช้ประโยชน์ได้สูงสุดเท่านั้น อันระบบพรรคพวก เหมือนกับการแต่งงานในกลุ่มพันธุกรรมแคบๆ ซึ่งมีแต่จะเพิ่มโอกาสให้พันธุกรรมด้อย แสดงออกมามากขึ้นเรื่อยๆ สายพันธุ์แบบนั้นจะอ่อนแอลง และเกิดวิกลวิกาล จนสูญพันธุ์ไปในที่สุด ทำลายสภาวะสิ่งแวดล้อมไปด้วยในระหว่างนั้น

         การโกงกินในทุกวันนี้ เป็นสิ่งที่เราทุกคนมีส่วนทำให้เกิดขึ้น ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม และเราจึงต้องรับผิดชอบที่จะทำอะไรสักอย่าง เพื่อแก้ไขให้ดีที่สุด

         ณ เวลานี้ การแก้ไขระยะสั้นยังไม่มีใครทราบว่าจะออกมาในลักษณะแบบใด แต่ทว่า อย่าได้ตั้งความมุ่งมั่นเพียงแค่ปัญหาระยะสั้นเท่านั้น ประเทศที่โกงกินได้ลึกซึ้ง จำนวนมากมายมหาศาล และลุกลามไปทั่วทุกวงการแบบนี้ มีพยาธิสภาพเกิดขึ้นแล้วเป็นเวลานาน การเยียวยาจะไม่มีทางลัด จะต้องผ่านยาแรง และดูแลกันเป็นเวลายาวนานไม่แพ้กัน จะเปลี่ยนความคิดปลูกฝังเรื่องการดูและพรรคพวก พี่น้อง ครอบครัว ก่อนการคิดถึงเรื่องส่วนรวม เรื่องของสาธารณะ เป็นคุณค่ามุมมองที่ต้องปลูกฝัง ประคบประหงม ดูแลกันเป็นเวลานาน การฝึกสื่อสารด้วยจิตใจที่เมตตา กรุณา แต่ก็เด็ดขาดและชัดเจนในคุณค่าสังคมนั้น เป็นการกระทำระยะยาว ไม่ใช่ระยะสั้น การจะหลุดพ้นจากความคุ้นชินเดิม ความมักง่าย ชอบทำอะไรสั้นๆ เห็นผลเร็วๆ ไม่ได้ก็ใช้กำลังเข้าแก้ไข จะนำมาซึ่งผลลัพธ์ระยะสั้น และฝังรากพยาธิกำเนิดลงไปลึกกว่าเดิม

         ถามตัวเองทุกวันว่า วันนี้เราทำอะไรเพื่อปลูกฝังความดี เพื่อลดความชั่ว และดูแลจิตใจตนเองให้ผ่องใส เบิกบาน เต็มไปด้วยความรัก และเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น มองเห็นความรับผิดชอบในส่วนของตนเองต่อสังคมบ้างแล้วหรือไม่

         แล้วก็ลงมือกระทำไปเดี๋ยวนี้ ตอนนี้ อย่าหยุด

สกล สิงหะ
หน่วยชีวันตาภิบาล รพ.สงขลานครินทร์
๙ นาฬิกา ๕๓ นาที วันจันทร์ที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๗
วันแรม ๒ ค่ำ เดือน ๔ ปีมะเส็ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น